วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ความหมายของเศรษศาสฐศาสตร์

ความหมายของวิชาเศรษฐศาสตร์

         ถ้าจะกล่าวถึงคำว่าวิชาเศรษฐศาสตร์ในปัจจุบันนี้คงจะไม่มีใครที่บอกว่าไม่เคยได้ยินคำว่าวิชาเศรษฐศาสตร์ แต่ถ้าจะถามกลับไปว่าแล้วเศรษฐศาสตร์นั้นมีประวัติความเป็นมาอย่างไร คำถามนี้ถ้าหากไม่ใช่ผู้ที่สนใจจริงๆ แล้วก็อาจจะตอบไม่ได้ ซึ่งวิชาเศรษฐศาสตร์เมื่อเปรียบเทียบกับ วิชา รัฐศาสตร์ หรือปรัชญา นั้นจัดได้ว่าเป็นวิชาที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งผู้ที่ถูกจัดให้เป็นบิดาของวิชานี้ก็คือ อดัม สมิธ (Adam Smith ค.ศ.1723-1790) โดยท่านผู้นี้ได้แต่ตำราทางด้านเศรษฐศาสร์ที่จัดได้ว่าเป็นตำราทางเศรษฐศาสตร์ฉบับแรกของโลก ตำรานี้มีชื่อว่า "An Inquiry into the Nature and Causes of the Wealth of Nations" ซึ่งมีเนื้อหาในบางตอนกล่าวถึงในเรื่องของการพัฒนาเศรษฐกิจ ในเรื่องของมูลค่า (Value) ในทางเศรษฐทรัพย์ต่างๆ การค้าระหว่างประเทศ การคลังสาธารณะ รวมไปถึงการเก็บภาษีอากร

คำว่าเศรษฐศาสตร์นั้นเป็นคำมาจากภาษากรีก 2 คำคือ Oikos ซึ่งแปลว่าบ้าน หรือครอบครัว และคำว่า Nomos ซึ่งแปลว่ากฎระเบียบ ดังนั้นคำว่าเศรษฐศาสตร์ในความหมายแบบดั้งเดิมจึงแปลว่าการจัดระเบียบในบ้าน หรือครอบครัว แต่ในนิยามที่เรามักจะใช้กันอยู่ทั่วไปคือคำว่าเศรษฐศาสตร์ (Economics) มีความหมายว่า เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับทรัพยากรทั่วไปที่มนุษย์นำมาใช้ในการบริโภค (Consumption) โดยเป็นการนำเอาทรัพยากรที่มีอยู่ทั่วไปมาใช้ในการบริโภค ซึ่งในปัจจุบันทรัพยากรที่มีอยู่นั้นนับวันจะลดลงเรื่อยๆ จึงทำให้มีการพัฒนาวิธีการจัดการ หรือจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ที่มีอยู่อย่างไม่จำกัดให้ได้มากที่สุด โดยสรุปแล้วนั้นก็ยังคงไม่มีผู้ใดที่สามารถให้ความหมายของคำว่าเศรษฐศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งคำว่าเศรษฐศาสตร์ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้นจะมีความหมายที่แตกต่างจากคำว่าเศรษฐกิจ เพราะเศรษฐศาสตร์นั้นมีความหมายถึงการจัดสรรทรัพยากร แต่คำว่าเศรษฐกิจ(Economy)นั้นหมายถึงการจัดการครอบครัว หรือการดำรงชีพของประชาชนในชุมชน และสังคมนั้นๆ

จากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นคงจะมีคำถามที่ถามต่อมาอีกว่าที่จริงแล้วคำว่าเศรษฐศาสตร์นั้นมีความหมายที่แท้จริงว่าอย่างไร? ในที่นี้ทางผู้เขียนใคร่ขอยกตัวอย่างผู้ทรงคุณวุฒิที่ให้ความหมาย หรือนิยามของคำว่าเศรษฐศาสตร์มาช่วยในการอธิบายดังนี้

อัลเฟรด มาร์แชลล์ (Alfred Marshall) Principle Economic เป็นวิชาที่ศึกษาถึงพฤติกรรมของมนุษย์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อการดำรงชีพ(Business of life) ให้ได้มาซึ่งวัตถุสิ่งของเพื่อยังชีพให้ได้รับความสมบูรณ์พูนสุข (Material Requisties of Well-being)

รูดอลลิฟ ดับบลิว. เทรนตัน (Rudolliph W. Trenton) เศรษฐศาสตร์เป็นวิชาที่กล่าวถึงการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการตอบสนองความพึงพอใจสิ่งที่มนุษย์ต้องการ

พอล เอ. แซมมวลสัน (Paul A. Samuelson) Economics การศึกษาวิธีการของมนุษย์ และสังคมว่าจะเลือกใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าต่างๆ และสามารถแจกจ่ายสินค้าที่ผลิตขึ้นมาแล้วส่งไปยังประชาชนทั่วๆ ไปในสังคมเพื่อบริโภคในปัจจุบัน และอนาคตได้อย่างไรโดยที่มนุษย์ และสังคมนั้นจะมีการใช้เงินหรือไม่ก็ตาม

อุทิศ นาคสวัสดิ์ : หลัก และทฤษฎีเศรษฐ์ศาสตร์ทั่วไป เป็นการศึกษาถึงวิธีการที่ระบบเศรษฐกิจ ทำการผลิตสิ่งของ และบริการเพื่อบำบัดความต้องการของมนุษย์ และแจกจ่ายสิ่งของ และบริการเหล่านั้นไปยังบุคคลที่มีความต้องการ

ประยูร เถลิงศรี : หลักเศรษฐศาสตร์ เป็นวิชาสังคมศึกษาที่เกี่ยวกับการศึกษาว่า มนุษย์จะเลือกตัดสินใจอย่างไร ในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ไม่เพียงพอเพื่อผลิตสิ่งของ และบริการพร้อมทั้งแบ่งปันสิ่งของ และบริการเหล่านั้นเพื่ออุปโภค และบริโภคระหว่างบุคคลต่างๆ ในสังคมทั้งปัจจุบัน และอนาคต

ปัจจัย บุนนาค และสมคิด แก้วสนธิ : จุลเศรษฐศาสตร์ เป็นวิชาที่ศึกษาถึงการนำเอาทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด มาซื้อขายแลกเปลี่ยน หรือนำมาประกอบกันผลิตเป็นสินค้าด้วยความประหยัด เพื่อจำแนกแจกจ่ายไปบำบัดความต้องการของมนุษย์ในสังคม

ธรรมนูญ โสภารัตน์ : เป็นวิชาที่ศึกษาถึงการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด และหายาก ในการผิตสินค้า และบริการ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด และความอยู่ดีกินดีของประชาชาติ ในภาวะปัจจุบัน และอนาคต

จากความหมายของคำว่าเศรษฐศาสตร์ที่กล่าวมาข้างต้นพอที่สรุปได้ว่าวิชาเศรษฐศาสตร์ คือวิธีการเลือกสรรเทคโนโลยีที่จะใช้ในการการผลิตสินค้าและบริการให้ได้ปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของมนุษย์ที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเศรษฐศาสตร์คือวิธีการที่จะนำทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการผลิตเป็นสินค้าและบริการ ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีอยู่อย่างไม่จำกัดให้มากที่สุด สรุปท้ายบท
เศรษฐศาสตร์เป็นสาขาวิชาหนึ่งของสังคมศาสตร์ ศึกษาเกี่ยวกับการเลือกวิธีการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดไปในการผลิตสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ที่มีไม่จำกัดให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์มีการพัฒนามาเป็นลำดับขั้น กล่าวคือ
ลัทธิพาณิชย์นิยมคือพวกที่นิยมในการทำการค้า นักพาณิชย์นิยมมีความเชื่อว่าประเทศจะมีความมั่งคั่งในทางเศรษฐกิจก็ต่อเมื่อประเทศมีดุลการค้าที่เกินดุล โดยสนับสนุนให้รัฐบาลเข้ามามีบทบาทในการควบคุมและแทรกแซงกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
สำนักคลาสสิกโดยการนำของอดัม สมิท (บิดาแห่งวิชาเศรษฐศาสตร์) เชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศจะมั่งคั่งก็ต่อเมื่อรัฐไม่เข้ามาแทรกแซงในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยปล่อยให้กลไกตลาด (ราคา) เป็นกลไกในการจัดสรรทรัพยากร
สำนักนีโอคลาสสิกคล้ายกับของกลุ่มคลาสสิก คือสนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจแบบเสรี โดยเน้นให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและประหยัด
สำนักเคนส์สนับสนุนให้รัฐเข้ามามีบทบาทในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยใช้นโยบายการเงินการคลังเข้ามาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัวไปในทิศทางที่พึงประสงค์
ปัจจุบันเราแบ่งการศึกษาเศรษฐศาสตร์ออกเป็น 2 สาขา คือ เศรษฐศาสตร์จุลภาค (ศึกษาเกี่ยวกับเศรษฐกิจส่วนย่อย) กับเศรษฐศาสตร์มหภาค (ศึกษาเกี่ยวกับเศรษฐกิจส่วนรวม) ผู้ที่จะศึกษาเศรษฐศาสตร์ได้ดีและสามารถนำความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ไปใช้ให้เกิดผล นอกจากจะต้องศึกษาเศรษฐศาสตร์ทั้งสองสาขาเป็นอย่างดีแล้ว ยังจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในศาสตร์อื่นๆในส่วนที่ เกี่ยวข้องกับเศรษฐศาสตร์ด้วย เช่น นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ จิตวิทยา ประวัติศาสตร์ บริหารธุรกิจ คณิตศาสตร์และสถิติ เป็นต้น และจากความไม่สมดุลระหว่างปริมาณทรัพยากรของโลกกับความต้องการ ของมนุษย์ ทำให้ทุกๆประเทศในโลกต่างประสบกับปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ 3 ประการ คือ ผลิตอะไร ผลิตอย่างไร และผลิตเพื่อใคร ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นฐานก็ขึ้นอยู่กับว่าประเทศนั้นๆเป็นระบบเศรษฐกิจแบบใด กล่าวคือ หากเป็นระบบทุนนิยมจะใช้กลไกราคา ระบบคอมมิวนิสต์จะใช้กลไกรัฐ ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมจะใช้กลไกรัฐเป็นหลัก กลไกราคามีบทบาทอยู่บ้าง แต่ค่อนข้างจำกัด ส่วนระบบเศรษฐกิจแบบผสมจะใช้ทั้งกลไกราคาและกลไกรัฐร่วมกันในการจัดสรรทรัพยากร



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น